วันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2562

สรุป


สรุป
          การจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน เป็นวิชาที่นักศึกษาวิชาชีพครูจะต้องศึกษาไว้ให้แตกฉานรูปแบบ The STUDIES Model เป็นการนำเสนอให้รู้จักหลักเกณฑ์หรือแนวทางในการจัดการเรียนรู้ กล่าวได้ว่า การเรียนรู้รูปแบบ The STUDIES Model อย่างเดียว แต่ถ้าไม่ได้ลงมือปฏิบัติจริงๆก็คงสอนไม่ได้ดี รูปแบบ The STUDIES Model พัฒนาขึ้นเพื่อให้ผู้สอนได้ใช้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ เพื่อให้ตัดสินใจได้ว่าในการจัดการเรียนรู้ควรปรับปรุงแก้ไขประเด็นใด เมื่อผู้สอนได้แบบแผนการจัดการเรียนรู้ที่ชัดเจนแล้วการจัดการเรียนรู้ต่อไปก็จะง่ายขึ้น ถ้าเป็นไปได้ก็คิดขั้นตอนกระบวนการของตนเองมาบ้าง ไม่ต้องเดินตามวิธีการที่ผู้อื่นกำหนดไว้เสมอไป


การปรับปรุงรายวิชา



การปรับปรุงรายวิชา
       สาขาวิชาหลักสูตรและนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม ได้ปรับปรุงหลักสูตรครุศาสตร์บัณฑิต พ.. 2556 เป็นหลักสูตรครุศาสตร์บัณฑิต ปรับปรุง พ..2561 และปรับเปลี่ยนรายวิชา การออกแบบและการจัดการเรียนรู้ เป็นรายวิชาการจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน รายละเอียดการปรับปรุง คือ ชื่อรายวิชา รหัสวิชา จำนวนชั่วโมงในการจัดการเรียนการสอน และคำอธิบายรายวิชา ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เพื่อให้สาระและสมรรถนะในการเรียนรู้สอดคล้องกับมาตรฐานการจัดการเรียนรู้ที่คุรุสภากำหนด หนังสือ The STUDIES Model: การจัดการเรียนรุ้และการจัดการชั้นเรียน เพื่อตอบสนองความต้องการในการเรียนรู้ดังกล่าว

รูปแบบ The STUDIES Model


รูปแบบ The STUDIES Model
รูปแบบ The STUDIES Model มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้นักศึกษาวิชีพครู มีความรู้ความเข้าใจบทบาทที่สำคัญในบานะผู้เรียนที่จะต้องศึกษาศาสตร์การสอน และมีบทบาทในฐานะผู้สอนที่จะนำความรู้ไปจัดการเรียนรู้ และจัดการชั้นเรียน รายละเอียดดังภาพประกอบที่ 2
ภาพประกอบที่ 2 รูปแบบ The STUDIES Model
ที่มา รัญญาภรณ์ บริบูรณ์
          รูปแบบ The STUDIES Modelมี 7 ขั้นตอน ดังรายละเอียดต่อไปนี้
          S :กำหนดจุดหมายการเรียนรู้ ( Setting learning goals) การกำหนดจุดหมายการเรียนรู้ ผู้เรียนต้องระบุจุดหมายการเรียนรู้ (goals) ด้วยการระบุความรู้และการปฏิบัติ โดยการระบุความรู้ในรูปของสารสนเทศ (declarative knowledge) และระบุทักษะ การปฏิบัติ หรือกระบวนการ (procedural knowledge) จุดหมายการเรียนรู้ไม่ได้ถูกจำกัดด้วยจำนวนของบทเรียน ปริมาณเนื้อหาสาระหรือความรู้สูงสุด แต่หมายถึงความคาดหวังที่จะเรียนรู้ต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง และเจตนาที่จะให้ผู้เรียนแสดงถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้
          T :วิเคราะห์ภาระงาน (Task Analysis) ศึกษาข้อมูลต่างๆ เพื่อให้ได้ความรู้(knowledge) ทักษะ(skill) และเจตคติ(Attitude) ที่เกี่ยวข้องเพื่อการอธิบายภาระงานหรือกิจกรรมที่ช่วยนำทางผู้เรียนไปสู่จุดหมายการเรียนรู้ การวิเคราะห์งานจะเขียนแสดงความสัมพันธ์ด้วย KSA diagram คือ Knowledge-Skill-Attitudes

          U :การออกแบบการเรียนการสอนที่เป็นสากล ( Universal Design for Instruction UDI) เป็นการออกแบบ การสอนที่ครูมีบทบาทเป็นผู้ดำเนินการเชิงรุก (proactive) เกี่ยวกับการผลิตและจัดหาจัดทำหรือชี้แนะนำผลิตภัณฑ์การศึกษาและสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้ ที่จะระบุถึงในทุกขั้นตอนของการเรียนการสอน
          D :การเรียนรู้จากสื่อดิจิทัล (Digital Learning) การเรียนรู้จากสื่อดิจิทัลเป็นการเรียนรู้ผ่านเครือข่าย เช่น เครือข่ายสังคมออนไลน์(Social networking) การแชร์ภาพ และการใช้อินเทอร์เน็ตแบบเคลื่อนที่ เป็นต้น การเรียนรู้จากสื่อดิจิทัลมีนัยมากกว่าการรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ แต่ยังครอบคลุมถึงประเด็นต่างๆเกี่ยวกับเนื้อหา (content) จริยธรรม สังคม และการสะท้อน(Reflection) ซึ่งฝังอยู่ในการเรียนรู้ การทำงานและชีวิตประจำวัน
          I :การบูรณาการความรู้ (Integrated Knowledge) การเชื่องโยงความรู้ที่เกี่ยวข้องภายในศาสตร์ต่างๆ ของรายวิชาเดียวกันหรือหลากหลายวิชาเพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ไปใช้ในชีวิตจริง ในการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ เป็นกระบวนการจดประสบการณ์โดยเชื่อมโยงสาระความรู้ของศาสตร์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้ผู้เรียนได้รับความรู้ ทักษะ และเจตคติ
          E :การประเมินเพื่อปรับปรุงการสอน ( Evaluation to Improve Teaching) การประเมินการเรียนรู้ของตนเอง โดยกำหนดค่าคะแนนจากการวิเคราะห์การประเมินการเรียนรู้ด้านความรู้ ของบลูม (Bloom ‘s Taxonomy) การประเมินตามสภาพจริงและการประเมินจากแฟ้มสะสมงาน เป็นการตรวจสอบการบรรลุจุดหมายการเรียนรู้
          S :การประเมินอิงมาตรฐาน (Standard Based Assessment) การประเมินคุณภาพการเรียนรู้อิงมาตรฐาน โดยใช้แนวคิดพื้นฐานโครงสร้างการสังเกตผลการเรียนรู้ มากำหนดระดับคุณภาพผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นการตรวจสอบคุณภาพการเรียนรู้ รวมถึงมาตรฐานการประเมินคุณภาพภายในและการประเมินคุณภาพภายนอก

กรอบแนวคิดที่มา The STUDIES Model



กรอบแนวคิดที่มา The STUDIES Model

          รูปแบบ The STUDIES Model เป็นผลสืบเนื่องจากการศึกษาวิจัยเพื่องส่งเสริมความสามารถในการจัดการเรียนรู้และการจัดการในชั้นเรียน สำหรับนักศึกษาวิชาชีพครู ศึกษาวิเคราะห์หลักการ แนวคิด ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วยแนวนโยบายแห่งรัฐในการจัดการศึกษายุค Thailand 4.0  หรือยุคการศึกษา 4.0 มาตรฐานวิชาชีพครู พ.. 2556 แนวคิดการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ (constructivist Learning Method : CLM ) การออกแบบการเรียนการสอนที่เป็นสากล (university Design of Instruction ;UDI) การวัดผลการเรียนรู้ การกำหนดระดับความเข้าใจ ในการกำหนดค่าระดับคุณภาพการเรียนรู้ตามแนวคิดSOLO Taxonomy ผลการศึกษาวิจัยได้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ ที่เรียกว่า TheSTUDIES Model มีรายละเอียดกรอบแนวคิด ( The STUDIES Model framework ) ดังแผนภาพประกอบที่ 1



The STUDIES MODEL : การจัดการเรียนรู้และการจัดการในชั้นเรียน



The STUDIES MODEL : การจัดการเรียนรู้และการจัดการในชั้นเรียน

การจัดการเรียนรู้ละการจัดการในชั้นเรียนตามรูปแบบ The STUDIES MODel มีจุดมุ่งหมายสำคัญเพื่อตอบสนองหลักการและเหตุผลสำคัญในการกำหนดแนวทางพัฒนาวิชาชีพครู ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ..2542 มาตรา 9 (4) ที่ได้กำหนดบทบัญญัติให้มีหลักการส่งเสริมมาตรฐาน วิชาชีพครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา และการพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษามาอย่างต่อเนื่อง

          รูปแบบ The STUDIES Model มุ่งพัฒนานักศึกษาวิชาชีพครูให้มีความรู้ ความสามารถ คุณลักษณะความเป็นครูตามมาตรฐานวิชาชีพ ตามที่คุรุสภาได้ประกาศเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพไวและสอดคล้องกับแนวคิดอาจารย์มืออาชีพแนวคิด เครื่องมือ และหลักการพัฒนา(ไพฑูรย์ สินลารัตน์ 2550 บรรณาธิการ เครือข่าย การพัฒนาวิชาชีพและองค์การอุดมศึกษาแห่งประเทศไทย ) ในการปรับปรุงคุณภาพด้านการเรียนการสอนของสถาบันอุดมศึกษาในประเด็นการพัฒนาการเรียนการสอนที่เน้นสัมฤทธิ์ผลในการปรับปรุงศักยภาพการเรียนของนักศึกผ่ารกระบวนการเรียนการสอนเป็นหลัก

วันพุธที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2562

ประมวลรายวิชา




ชื่อสถาบันอุดมศึกษา       มหาวิทยาลัยนครพนม
วิทยาเขต/คณะ/ภาควิชา  คณะครุศาสตร์
1.รหัสและชื่อรายวิชา
          การจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน
          (Instructional and Classroom Management)
2. จำนวนหน่วยกิต
          3 หน่วยกิต ( 2-2-5 )
3. หลักสูตรและประเภทของรายวิชา
          หลักสูตรครุศาสตร์บัณฑิต
          หมวดวิชาเฉพาะกลุ่มวิชาชีพครู ( วิชาบังคับ )
4. อาจารย์ผู้รับผิดชอบรายวิชาและอาจารย์ผู้สอน
          ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิจิตรา ธงพานิช
          e-mail Phichittra.npu.ac.th
          Mobile Phone: 0884555839
5. ภาคการศึกษา/ปีการศึกษา
          ภาคการศึกษาที่ 2 / 2561
6.รายวิชาที่ต้องเรียนมาก่อน (Pre - requisite) (ถ้า มี)
7.สถานที่เรียน    คณะครุศาสตร์มหาวิทยาลัยนครพนม
8.จุดมุ่งหมายของรายวิชารายวิชานี้ออกแบบเพื่อช่วยให้นักศึกษาได้เรียนรู้และบรรลุจุดมุ่งหมายดังนี้
          8.1.มีความรู้ในเรื่องหลักการแนวคิดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน
          8.2.ทักษะในการจัดทำแผนการเรียนรู้และนำไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผลจริง
          8.3.มีความสามารถคิดวิเคราะห์คิดสร้างสรรค์และแก้ปัญหาได้การบูรณาการการเรียนรู้แบบเรียนรวม
          8.4.มีความสามารถในการจัดการเรียนรู้สิ่งแวดล้อมเพื่อการเรียนรู้และการพัฒนาศูนย์การ เรียนในสถานศึกษา
          8.5.มีเจตคติที่ดีและให้ความสำคัญต่อการจัดสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้การสร้างบรรยากาศและการจัดการชั้นเรียนให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้
9. คำอธิบายรายวิชา
          หลักการ แนวคิด แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดทำแผนการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้ และสิ่งแวดล้อม เพื่อการเรียนรู้ ทฤษฎีและรูปแบบการจัดการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนรู้จักคิดวิเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ และแก้ปัญหาได้ การบูรณาการการเรียนรู้แบบเรียนรวม การจัดการชั้นเรียน การพัฒนาศูนย์การ เรียนในสถานศึกษา การจัดทําแผนการเรียนรู้และนำไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผลจริง การสร้างบรรยากาศการจัดการชั้นเรียนให้ผู้เรียนเกิดการเรียน
          Principles, concepts and guideline for learning plan development learning management and environment for learning; theories and instructional management model for learners learn how to know the critical thinking, creative thinking and solving problems; integration of inclusive education: classroom management; learning center development in schools; writing learning plans and implementing for authentic output; creating a positive classroom atmosphere for learners

10. จำนวนชั่วโมงที่ใช้ต่อภาคการศึกษา
บรรยาย
สอนเสริม
การฝึกปฏิบัติงานภาคสนาม/การฝึกงาน
การศึกษาด้วยตนเอง
2 ชั่วโมง/สัปดาห์
-
2 ชั่วโมง/สัปดาห์
5 ชั่วโมง/สัปดาห์

11. แผนการสอน



สัปดาห์ที่
หัวข้อรายละเอียด
จำนวนชั่วโมง
จำนวนชั่วโมง
กิจกรรมการเรียนการสอนสื่อที่ใช้(ถ้ามี)
ชื่อผู้สอน
1
แนะนำรายวิชา ออกแบบและวางแผนการเรียนรู้ร่วมกัน
การจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน : The STUDIES Model
2
2
-บรรยาย/อภิปราย/สรุป
-ประมวลการสอน
The STUDIES Model
ผศ.ดร.พิจิตรา  
ธงพานิช
2
กำหนดจุดมุ่งหมายการเรียนรู้
(Setting Learning Goals)
2
2
-Power Point/หนังสือ
-จับคู่ ปฏิบัติกิจกรรม
- Assessment
ผศ.ดร.พิจิตรา  
ธงพานิช
3
วิเคราะห์ภาระงาน (Task Analysis)
2
2
-Power Point/หนังสือ
-จับคู่ ปฏิบัติกิจกรรม
- Assessment
ผศ.ดร.พิจิตรา  
ธงพานิช
4
การออกแบบการเรียนการสอนที่เป็นสากล (Universal Design for Instruction)
2
2
-Power Point/หนังสือ
-จับคู่ ปฏิบัติกิจกรรม
- Assessment
ผศ.ดร.พิจิตรา  
ธงพานิช
5
การเรียนรู้จากสื่อดิจิทัล (Digital Learning)
2
2
-Power Point/หนังสือ
-จับคู่ ปฏิบัติกิจกรรม
- Assessment
ผศ.ดร.พิจิตรา  
ธงพานิช
- Assessment
6
การบูรณาการความรู้ (Integrated Knowledge)
2
2
-Power Point/หนังสือ
-จับคู่ ปฏิบัติกิจกรรม
- Assessment
ผศ.ดร.พิจิตรา 
 ธงพานิช
7
การประเมินเพื่อปรับปรุงการสอน (Evaluation to Improve Teaching)
2
2
-Power Point/หนังสือ
-จับคู่ ปฏิบัติกิจกรรม
- Assessment
ผศ.ดร.พิจิตรา
  ธงพานิช
8
การประเมินอิงมาตรฐาน (Standard Based Assessment)
2
2
-Power Point/หนังสือ
-จับคู่ ปฏิบัติกิจกรรม
- Assessment
ผศ.ดร.พิจิตรา 
 ธงพานิช
9
การประเมินระหว่างเรียน
สอบกลางภาค
2
-
-สอบข้อเขียนในชั้นเรียน
- Assessment
ผศ.ดร.พิจิตรา 
 ธงพานิช
10
การออกแบบ และการเขียนแผนจัดการเรียนรู้
การจัดสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้
2
-
แผนการจัดการเรียนรู้
ผลิตภัณฑ์/สื่อการเรียนรู้
สิ่งแวดล้อมการเรียนรู้
ผศ.ดร.พิจิตรา
  ธงพานิช
11
การออกแบบ และการเขียนแผนจัดการเรียนรู้
การจัดสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้
2
-
แผนการจัดการเรียนรู้
ผลิตภัณฑ์/สื่อการเรียนรู้
สิ่งแวดล้อมการเรียนรู้
ผศ.ดร.พิจิตรา 
 ธงพานิช
12
การออกแบบ และการเขียนแผนจัดการเรียนรู้
การจัดสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้
2
-
แผนการจัดการเรียนรู้
ผลิตภัณฑ์/สื่อการเรียนรู้
สิ่งแวดล้อมการเรียนรู้
ผศ.ดร.พิจิตรา
  ธงพานิช
13
สาธิต/การจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน (กลุ่ม 4-6 คน)
สองกลุ่ม
2
2
-การปฏิบัติตามแผนจัดการเรียนรู้
-จัดสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้
ผศ.ดร.พิจิตรา
  ธงพานิช
14
สาธิต/การจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน (กลุ่ม 4-6 คน)
สองกลุ่ม
2
2
-การปฏิบัติตามแผนจัดการเรียนรู้
-จัดสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้
ผศ.ดร.พิจิตรา 
 ธงพานิช
15
สาธิต/การจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน (กลุ่ม 4-6 คน)
สองกลุ่ม
2
2
-การปฏิบัติตามแผนจัดการเรียนรู้
-จัดสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้
ผศ.ดร.พิจิตรา 
 ธงพานิช
16
-ประเมินผลปลายภาค
2
-
-ทดสอบ
-แบบทดสอบ
ผศ.ดร.พิจิตรา  
ธงพานิช

รวม
32
28



12. แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
          การจัดการเรียนและการจัดการชั้นเรียน (Instructional and Classroom Management) มีแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ (Constructivist) และการเรียนรู้แบบรู้ร่วมมือ        ( Cooperative Learning ) รายละเอียดดังต่อไปนี้
          12.1 กำหนดจุดหมายการเรียนรู้ ( Setting Learning Goals )
          12.2 วิเคราะห์ภาระงาน ( Task Analysis )
          12.3 การออกแบบการเรียนการสอนที่เป็นสากล ( Universal Design for lnstruction)
          12.4 การเรียนรู้จากสื่อดิจิทัล (Digital Learning)
          12.5 การบูรณาการความรู้ ( Integrated Knowledge )
          12.6 การประเมินเพื่อปรับปรุงการสอน ( Evaluation to Improve Teaching )
          12.7 การประเมินอิงมาตรฐาน (Standard based Assessment ) 

สรุปเป็น The STUDIES Model ดังภาพประกอบ 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ The STUDIES Model
Ø ใช้หลักการออกแบบการจัดการเรียนรู้ตามOutcome Driven Model ประกอบด้วย
1. หลักการจัดการการเรียนรู้
2. จุดมุ่งหมายของการพัฒนาการจัดการเรียนรู้
3. การสอน
      ขั้นที่ 1 วิเคราะห์จุดหมายในการเรียนรู้
      ขั้นที่ 2 การวางแผนการเรียนรู้
      ขั้นที่ 3 การพัฒนาทักษะการเรียนรู้
      ขั้นที่ 4 การสรุปความรู้และการวิพากษ์ความรู้
      ขั้นที่ 5 การประเมินการเรียนรู้
4. การประเมินผล
สรุปเป็นแผนภาพ ได้ดังนี้

          รายวิชาการจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน (Instructional and Learning Management) จัดการเรียนรู้เป็น 8 หน่วย ดังนี้
หน่วยที่
เนื้อหาสาระ
1
การจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน : The STUDIES Model
2
กำหนดจุดหมายการเรียนรู้ (Setting Learning Goals)
3
วิเคราะห์ภาระงาน (Task Analysis)
4
การออกแบบการเรียนการสอนที่เป็นสากล (Universal Design for Instruction)
5
การเรียนรู้จากสื่อดิจิทัล (Digital Learning)
6
การบูรณาการความรู้ (Integrated Knowledge)
7
การประเมินเพื่อปรับปรุงการสอน (Evaluation to Improve Teaching)
8
การประเมินอิงมาตรฐาน Standard

หลักการประเมินผลการเรียนรู้
          จากผลการศึกษาวิจัยของ David Nicol ( 2007 ) University of Strathclyde ) ได้เสนอหลักการ ประเมินผลการเรียนรู้และการให้ข้อเสนอแนะที่ดี ทฤษฎีและหลักการที่ใช้เป็นแนวปฏิบัติ ในการประเมินผลการศึกษาระดับอุดมศึกษา 10 ข้อดังนี้
          1. ให้ความชัดเจนว่าการปฏิบัติงานที่ดีเป็นอย่างไร (เป้าหมายเกณฑ์การวัดเกณฑ์มาตรฐาน) ขอบเขตของสิ่งที่ผู้เรียนต้องทำในหลักสูตรมีความสัมพันธ์กับเป้าหมายของเกณฑ์และมาตรฐานก่อนระหว่าง และหลังการ ประเมินผลแค่ไหน
          2. ให้ " เวลาและความพยายาม " กับการเรียนรู้สิ่งที่ท้าทายขอบเขตของงานที่มอบหมายมีส่วนกระตุ้น การเรียนรู้ทั้งในและนอกชั้นเรียน อย่างลึกซึ้งแค่ไหน
          3. ให้ข้อมูลย้อนกลับคุณภาพสูงที่จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ตรวจสอบความถูกต้องได้ด้วยตนเองผู้ สอนให้ข้อมูลย้อนกลับแบบไหน และความคิดเห็นดังกล่าวมีส่วนช่วยให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้และปรับปรุงด้วยตนเองได้อย่างไร
          4. สร้างความเชื่อที่เป็นแรงบันดาลใจและความเคารพตนเองในทางบวกขอบเขตของการประเมินและการให้ข้อมูลย้อนกลับสามารถสร้างแรงจูงใจในการเรียนและความสำเร็จแก่ผู้เรียนได้แค่ไหนไหน
          5 สนับสนุนให้มีการปฏิสัมพันธ์และการพูดคุยในเรื่องการเรียนการสอน ( เพื่อนและครู-นักเรียน ) โอกาสใดบ้างสำหรับการพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องงานที่มอบหมายเพื่อการประเมินผลในรายวิชาที่สอน
6. อำนวยความสะดวกในการพัฒนาการประเมินตนเองและการสะท้อนความคิดทางด้านการเรียนขอบเขตของโอกาสอย่างเป็นทางการสำหรับการให้ข้อมูลย้อนกลับ การประเมินตนเอง การประเมินโดยเพื่อนในวิชาที่เรียนมีแค่ไหน
7. ให้โอกาสผู้เรียนเลือกการประเมินผล - เนื้อหาและกระบวนการขอบเขตของผู้เรียนสำหรับการเลือก หัวข้อ วิธี การ เกณฑ์ การวัดผล ค่าน้ำหนักคะแนน กำหนดเวลา และงานที่มอบหมายเพื่อการประเมินผลงานที่ใช้ประเมินผล / การประเมินผลงานในรายวิชาที่สอน มีแค่ไหน
8. ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการประเมินผลและการปฏิบัติขอบเขตของข้อมูลที่ผู้เรียนได้รับ หรือมีการส่วนร่วมให้คำปรึกษาเพื่อการตัดสินใจเรื่องการประเมินผลมีแค่ไหน
9. สนับสนุนการพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ขอบเขตของการประเมินผลและการให้ข้อมูลย้อนกลับช่วยสนับสนุนการ พัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้แค่ไหน
10. ช่วยผู้สอนในการปรับการสอนเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เรียนดังนั้นการประเมินผลจะมีหลักการที่จะควบคุมกระบวนการการประเมินมีดังต่อไปนี้
1. การประเมินผลตามแนวคิด Out - Come Driven Model มีจุดหมาย ( Goals ) การสอนที่ชัดเจน
2. ขั้นตอนและเทคนิคในการประเมินผลควรเลือกตามจุดประสงค์ในการประเมิน
3. การประเมินผลควรทำอย่างต่อเนื่องและการประเมินผลควรจะมีความละเอียดรอบคอบ
4. การประเมินผลควรระบุจุดอ่อนจุดแข็งและใช้งานได้
5. การประเมินผลควรเป็นความพยายามร่วมกัน
13. การประเมินผล
        13.1 ประเด็นการประเมินผลของรายวิชาพร้อมค่าน้ำหนักเป็นร้อยละ                               
          1 . ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการจัดการเรียน รู้และการจัดการชั้นเรียน                     ร้อยละ 10
          2. การ ฝึกปฏิบัติการเขียนแผนจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน                      ร้อยละ 20
          3. สาธิตการจัดการเรียน รู้และการจัดการชั้นเรียน                                         ร้อยละ 20
          4. การเสนอภาคนิพนธ์                                                                       ร้อยละ 20
          5. การประเมินความรอบรู้ปลายภาคเรียนรู้                                                 ร้อยละ 30
   13.2 การกำหนดค่าระดับเกรดแต่ละระดับช่วง(ร้อยละ)ของคะแนน
คะแนน(ร้อยละ)
เกรด
80 - 100
A
75 - 79
B+
70 – 74
B
65 - 69
C+
60 – 64
C
55 – 59
D+
50 – 54
D
ต่ำกว่า 50
F