ตาราง 1 เปรียบเทียบ Bloom’s
Taxonomy 1956 และ 2001
New Version(Bloom’s Taxonomy 2006)
|
Old Version(Bloom’s Taxonomy1956)
|
Creating(สร้างสรรค์)
|
Evaluation(ประเมินค่า)
|
Evaluating(ประเมินค่า)
|
Synthesis(การสังเคราะห์)
|
Analysing(วิเคราะห์)
|
Analysis(การวิเคราะห์)
|
Applying(นำไปใช้)
|
Application(การนำไปใช้)
|
Understanding(เข้าใจ)
|
Comprehension(ความเข้าใจ)
|
Remembering(จำ)
|
Knowledge(ความรู้ความจำ)
|
สรุปการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้ว่า มีการเปลี่ยนแปลงในระดับคำศัพท์และระดับโครงสร้างการเปลี่ยนแปลงในระดับคำศัพท์
เป็นดังนี้
จุดประสงค์การศึกษาของหลักสูตรที่อิงมาตรฐาน(standards – based
curriculum) จะระบุ ในลักษณะว่า ผู้เรียนควรรู้และทำอะไรได้(เป็นกริยา) ในสิ่งใด(เป็นคำนาม) แต่ในปี 1956 บลูม
(Bloom)ใช้คำนามในการอธิบายความรู้ประเภทต่าง
ๆ ต่อมาในฉบับปรับปรุง ปี 2006 พฤติกรรม
ย่อยจึงระบุเป็นกริยา
และมีการปรับเปลี่ยนคำว่าความรู้ (knowledge) เป็น ความจำ(remember)
ในฉบับปรับปรุงได้จัดความรู้เป็น 4 ประเภท ได้แก่
1.ข้อเท็จจริง (factual)
2.มโนทัศน์ (concept)
3.กระบวนการ(procedural)
4.ความรู้ที่เกิดจากตนเอง (metacognition)
ขั้นพฤติกรรมหลักในกรอบเดิม 2 ขั้น
คือความเข้าใจ (comprehension) เปลี่ยนเป็ น
เข้าใจความหมาย (understand) และการประเมิน (evaluation) เป็น สร้างสรรค์ (create)
วัตถุประสงค์ของการเปลี่ยนแปลง
คือ
1. กรอบแนวคิดเดิมผู้พัฒนาส่วนใหญ่เป็นผู้ออกข้อสอบในวิทยาลัย/มหาวิทยาลัย กรอบ
แนวคิดเดิมจึงให้ตัวอย่างข้อสอบในแต่ละขั้นพฤติกรรม
แต่ฉบับปรับปรุงจัดทำเพื่อให้ครูผู้สอนใน
ระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาใช้เพื่อประโยชน์ในการออกแบบรายวิชา
วางแผนการสอน และ
การประเมินให้สอดคล้องกันทั้ง 3 ด้าน
2 ให้ตัวอย่างภาระงานการประเมินที่อธิบายความหมายของแต่ละพฤติกรรมให้ชัดเจน
มิใช่ใช้ข้อสอบเป็นตัวอธิบายความหมาย
3. ยุติข้อที่เป็นประเด็นถูกวิพากษ์วิจารณ์ที่กำหนดว่าผู้เรียนต้องพัฒนาตามลำดับขั้นจาก
พื้นฐานสะสมขึ้นไป
โดยไม่สามารถก้าวไปสู่การใช้ความคิดระดับสูงได้ ถ้าไม่ได้ผ่านขั้นที่ต่ำกว่า
ถัดไป
ซึ่งแอนเดอร์สัน และแครทโฮล (Anderson
& Krathwohl) เสนอว่าจากการศึกษาสนับสนุน
เฉพาะใน 3 ขั้นของ บลูม(Bloom) คือ ขั้นความเข้าใจ ขั้นการนำไปใช้ และขั้นการสังเคราะห์ต้องสั่ง
สมเป็นลำดับ
แต่ทั้งสองคนก็ยังยืนยันในกรอบแนวคิดที่ปรับปรุงใหม่ว่าในภาพรวมแล้วจะต้อง
พัฒนาเป็นลำดับ
และใช้คำถามทั้ง 4 คำถามจุดประกายความคิดของครูในการนำกรอบแนวคิดใหม่
นี้ไปใช้ในห้องเรียน
คำถามทั้ง 4 ประกอบด้วย
1) คำถามด้านการเรียนรู้ : อะไรคือสิ่งสำคัญที่ผู้เรียนจะต้องเรียนรู้ภายในเวลาเรียนที่
จำกัดที่จัดในชั้นเรียนและภาคเรียน
2) คำถามด้านการสอน : เราจะวางแผนและจัดการเรียนการสอนอย่างไรที่จะทำให้
ผู้เรียนจำนวนมาก
ๆ มีผลลัพธ์ของการเรียนรู้ในระดับสูง
3) คำถามด้านการประเมิน : เราจะเลือกหรือออกแบบเครื่องมือการประเมินและใช้
วิธีการประเมินอย่างไรที่จะทำให้ได้ข้อมูลอย่างถูกต้องว่าผู้เรียนกำลังเรียนรู้ได้ดีเพียงใด
4) คำถามด้านความสอดคล้อง : เราจะเชื่อมั่นได้อย่างไรว่าจุดประสงค์การเรียนการสอน
และการประเมินผลมีความสอดคล้องซึ่งกันและกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น